วันศุกร์ที่ 13 มีนาคม พ.ศ. 2558

บันทึกการเรียนครั้งที่ 8

บันทึกการเรียนครั้งที่ 8
วันอังคารที่ 10 มีนาคม 2558


    ในวันนี้อาจารย์ได้อธิบายการสอบบรรจุข้าราชการ มีการสอบ ภาค ก. ภาค ข. และ มีการสอบสัมภาษณ์


  ก่อนเข้าบทเรียนมีการเล่นเกมทายใจสนุกๆกัน  



    หลังจากเกมทายใจก้จะเปิดวีดีโอ  ของโรงเรียนอนุบาลบ้านพลอยภูมิ  เป็นการจัดการเรียนการสอนในห้องเรียนเรียนรวม  มีกิจกรรมดังต่อไปนี้   

1.) กิจกรรมที่นำจังหวะดนตรี และเสียงเพลงเข้ามาใช้ในกิจกรรม 
     - เด็กเคลื่อนไหวส่วนต่างๆ ของร่างกาย
     - กระโดด >> เด็กได้ฝึกการทรงตัว, การสัมพันธ์ซ้ายขวา

2.) กิจกรรม หยิบ ยก ส่ง 
     - เด็กส่งสิ่งของกับเพื่อนๆ
     - มีบทกลอนประกอบ

3.) กิจกรรม กระโดดประกอบอุปกรณ์ คือ ห่วง 
    - เด็กได้เคลื่อนไหวส่วนต่างๆ ของร่างกาย
    - มีเสียงดนตรี โดยครูเป่าขลุ่ยเป็นเพลง

4.) กิจกรรมโยน-รับลูกบอล
    - เด็กรู้จักการผ่อนหนักเบา

5.) กิจกรรมกิ้งกือ 
    - มีนิทาน และเพลงประกอบ

6.) กิจกรรมศืลปะสร้างสรรค์ 
     - วาดภาพระบายสีตามจินตนาการ

7.) กิจกรรมกลางแจ้ง
    - เด็กๆวิ่งเล่นกัน บริเวณนอกอาคารเรียน

8.) กิจกรรม รับ-ส่งลูกบอล ประกอบอุปกรณ์ คือ ห่วง 
    - เด็กโยนรับบอล และเดินข้ามไปทีละห่วง
    - ประสานสัมพันธ์ระหว่างมือกับตา
    - เด็กรู้จักการผ่อนหนักเบา

  เนื้อหาในการเรียนสัปดาห์นี้ ต่อจากทักษะทางสังคม คือ  

2. ทักษะทางภาษา

การวัดความสามารถทางภาษา
- เข้าใจสิ่งที่ผู้อื่นพูดไหม
- ตอบสนองเมื่อมีคนพูดไหม
- ถามหาสิ่งต่างๆไหม
- บอกเล่าเหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นไหม
- ใช้คำศัพท์ของตัวเองกับเด็กคนอื่นไหม

การออกเสียงผิด หรือพูดไม่ชัด 
- การพูดตกหล่น
- การใช้เสียงหนึ่งแทนอีกเสียง
- ติดอ่าง

การปฏิบัติของครู และผู้ใหญ่
- ไม่สนใจการพูดซ้ำ หรือการพูดไม่ชัด
- ห้ามบอกกับเด็กว่า "พูดช้าๆ", "ตามสบาย", "คิดก่อนพูด"
- อย่าขัดจังหวะขณะที่เด็กกำลังพูด
- อย่าเปลี่ยนการใช้มือข้างที่เด็กถนัด
- ไม่เปรียบเทียบการพูดของเด็กกับเด็กคนอื่น
- เด็กที่พูดไม่ชัด อาจเกี่ยวข้องกับการได้ยินด้วย

ทักษะพื้นฐานทางภาษา
- ทักษะการรับรู้ภาษา
- การแสดงออกทางภาษา
- การสื่อความหมายโดยไม่ใช้คำพูด

ความรับผิดชอบของครูปฐมวัย 
- การรับรู้ภาษา มาก่อนการแสดงออกทางภาษา (ฟังก่อนการพูด)
- ภาษาที่ไม่ใช่คำพูด มาก่อนภาษาพูด (สีหน้า, ท่าทาง)
- ให้เวลาเด็กได้พูด
- คอยให้เด็กตอบ (ชี้แนะ หากจำเป็น)
- เป็นผู้ฟังที่ดี และโต้ตอบอย่างฉับไว (ครูไม่พูดมากเกินไป)
- เด็กไม่ได้เรียนรู้ภาษาจากการฟังเพียงอย่างเดียว
- ให้เด็กทำกิจกรรมกลุ่ม เด็กพิเศษจะได้มีแบบอย่างจากเพื่อน
- กระตุ้นให้เด็กบอกความต้องการของตนเอง (ครูไม่คาดการณ์ล่างหน้า)
- เน้นวิธีการสื่อความหมายมากกว่าการพูด
- ใช้คำถามปลายเปิด
- เด็กพิเศษรับรู้มากเท่าไหร่ ยิ่งพูดได้มากเท่านั้น
- ร่วมกิจกรรมกับเด็ก

และมี กิจกรรม ดนตรีบำบัด   



  การนำไปประยุกต์ใช้   

- สามารถนำความรู้ที่ได้วันนี้ไปใช้ เช่น การสอบบรรจุข้าราชการ เป็นการบอกแนวทาง ได้ให้เราไปศึกษาต่อ และวางแผนชีวิตตัวเองได้อย่างถูกต้อง
- ได้เห็นกิจกรรมที่หลากหลายของห้องเรียนรวม และสามารถนำไปปรับใช้ในอนาคตในการฝึกสอน
- การส่งเสริมทักษะทางภาษาในห้องเรียน สามารถนำชื่อของสิ่งของมาแปะไว้ให้เด็กดู และเขก้จะเกิดการจำว่า ของสิ่งนี้เขียนอย่างไรและคืออะไร
- เวลาเด็กพูด ไม่พูดขัดเด็ก และควรฟังเวลาเด็กพูด
- หากเด็กไม่พูด ครูต้องเรียกชื่อเด็กบ่อยๆ ทุกวัน จะทำให้เด็กสามารถพูดตามได้

  การประเมิน  

ประเมินตนเอง : เข้าเรียนตรงเวลา แต่งกายเรียบร้อย ไม่พูดเสียงดัง ตั้งใจจดและำกิจกรรมต่างๆร่วมกันกับเพื่อน บรรยากาศในห้องเรียนไม่ตึงเครียด และมีเพื่อนอีกเซคมาเรียนด้วยเพราะตอนบ่ายอาจารย์มีธุระต่อ 
ประเมินเพื่อน : เพื่อนส่วนใหญ่มาเรียนตรงเวลา แต่มีบ้างบางคนที่มาสาย ตั้งใจเรียนและจดบันทึกเนื้อหา คุยกันบ้างแต่ไม่ได้เสียงดังมาก ให้ความร่วมมือในการทำกิจกรรมเป็นอย่างดี แต่งกายถูกต้องตามระเบียบ
ประเมินอาจารย์ : มาสอนตรงเวลา แต่งกายสุภาพ ตั้งใจสอน มีความรู้ต่างๆมาบอกนักศึกษาเสมอ สามารถทำบรรยากาศให้น่าเรียนอยู่เสมอ มีการยกตัวอย่างเนื้อหาที่เรียนเสมอเพื่อให้นักศึกษาเข้าใจในบทเรียนมากขึ้น มีกิจกรรมสนุกๆมาให้ไดทำกันเสมอ  


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น